ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกซิเจนกับถังออกซิเจน

Oxygen Concentrator เทคโนโลยีการฟอกอากาศที่สามารถผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์

ในปัจจุบันตามท้องตลาดทั่วไปมี เครื่องผลิตออกซิเจน และถังออกซิเจนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกเหนือจากฟังก์ชั่นการใช้งานแล้ว ยังมีราคา ขนาด และรุ่น ให้คุณได้เลือกตามความต้องการและความเหมาะสมกับการใช้งาน แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าทั้ง 2 แบบนี้มีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร ในบทความนี้มีคำตอบ เพราะประโยชน์ของ เครื่องผลิตออกซิเจน และถังออกซิเจน นอกเหนือจากการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อใช้เป็นเครื่องช่วยหายใจสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาแล้ว ยังเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในการดูแลรักษาผู้ป่วยผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ รวมถึงยังมีประโยชน์ในแง่มุมอื่นๆ เช่น ช่วยลดอาการอ่อนเพลียหอบเหนื่อย, ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวก หรือช่วยลดภาวะสมองขาดออกซิเจนขณะนอนหลับ สำหรับใช้รักษาร่วมกับผู้ที่อาการนอนกรน เป็นต้น

ถ้าจะให้เราเปรียบเทียบระหว่าง เครื่องผลิตออกซิเจน และถังออกซิเจนแบบชัดๆ ว่าควรเลือกซื้อแบบไหนมากกว่ากัน ก็คงต้องขอชี้แจงว่าการเลือกซื้อจะต้องขึ้นอยู่กับอาการและปัจจัยของผู้ป่วยที่หลากหลายด้วยนั่นเอง ซึ่งในบทความนี้เราจะขอเปรียบเทียบในเชิงข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อของคุณได้อีกทางหนึ่ง เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator) ความจริงแล้วก็คือเทคโนโลยีการฟอกอากาศที่สามารถผลิตออกซิเจนบริสุทธิ์ ส่งผ่านตัวถังผ่านท่อ โดยอาศัยแรงดันอัดอากาศปกติผ่านตัวกรองออกซิเจน (Molecular Sieve) เพื่อกักโมเลกุลของออกซิเจนไว้ ส่วนไนโตรเจนจะไหลผ่านไปได้ ทำให้ได้ออกซิเจนที่เข้มข้นขึ้นถึงประมาณ 90% และต่อเพื่อเข้าสู่ปอดของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ ความจริงแล้วเครื่องผลิตออกซิเจน ก็คือเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนามาจากการใช้ถังออกซิเจนแบบเดิมๆ ในปัจจุบันนั้นมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและการใช้งานที่มีความเสถียรภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยหรือญาติผู้ดูแลที่อยากให้ผู้ป่วยกลับไปรักษาและพักฟื้นต่อที่บ้านได้

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คือ เครื่องผลิตออกซิเจน แบบพกพา (เหมาะสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจรุนแรง หรืออาการหนักจนไม่สามารถหายใจได้เองได้) และแบบใช้ภายในบ้าน ซึ่งจะมีขนาดให้เลือกใช้ตามความต้องการและความเหมาะสมกับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุแต่ละประเภท ซึ่งคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อทราบความต้องการและความเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่ใช้งาน ว่าควรใช้ปริมาณออกซิเจนเท่าไหร่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้นั่นเอง

ข้อดีของ “เครื่องผลิตออกซิเจน”

1. สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายทั้งในการใช้งานและการขนย้าย ต่างจากถังออกซิเจนที่จะต้องคอยเติมก๊าซออกซิเจนบ่อยครั้งเมื่อใช้จนหมด และด้วยขนาดของถังที่ลำบากในการขนย้ายเพื่อใช้งานหรือแม้กระทั่งการขนย้ายไปเติมก๊าซนั่นเอง ซึ่ง เครื่องผลิตออกซิเจน ถูกออกแบบมาให้สะดวกง่ายต่อการขนย้ายมากกว่า และที่สำคัญคือไม่ต้องเติมก๊าซให้เปลืองเงินเปลืองเวลา เพราะตัวเครื่องจะมีที่บรรจุสารสำหรับผลิตและกรองออกซิเจนอยู่ แค่เสียบปลั๊กแล้วเปิดเครื่อง ก็จะสามารถผลิตออกซิเจนออกมาให้ต่อเข้าสู่ปอดของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุได้ทันที ส่วนระยะเวลาและความถี่ในการเติมก๊าซของถังออกซิเจน ก็ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักๆ คือ ขนาดปริมาตรของถังออกซิเจน และปริมาณอัตราการไหลของออกซิเจนที่เราตั้งไว้
   
   
2. “เครื่องผลิตออกซิเจน” สามารถช่วยคุณประหยัดเวลา ข้อดีข้อนี้ถือเป็นจุดเด่นที่ถูกพัฒนามาให้ตอบโจทย์การใช้งานที่ทดแทนถังออกซิเจนได้เป็นอย่างดี เพราะในเครื่องสามารถผลิตออกซิเจนได้เองอัตโนมัติ ช่วยให้คุณไม่ต้องออกไปเติมก๊าซออกซิเจนบ่อยๆ หรือต้องเจอปัญญาที่บ่อยครั้งมักพบกับร้านปิด หรือก๊าซออกซิเจนหมดก่อนร้านจะปิด ซึ่งหากผู้ป่วยมีภาวะต้องใช้ออกซิเจนแบบฉุกเฉิน ก็อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้
   
   
3. “เครื่องผลิตออกซิเจน” ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าถังออกซิเจนในระยะยาว ถึงแม้ในการซื้อครั้งแรกจะมีราคาแพงกว่าถังออกซิเจน แต่เป็นการซื้อทีเดียวแล้วจบ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางออกไปเติมก๊าซและค่าเติมก๊าซออกซิเจน ฉะนั้น หากคุณประเมินแล้วว่าจะอาการของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่คุณดูแลอยู่ จะต้องใช้งานในระยะยาว การเลือก เครื่องผลิตออกซิเจน น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากกว่าถังออกซิเจน นั่นเอง
   
   
4. การดูแลรักษาง่ายกว่าถังออกซิเจน เพราะการเลือกใช้ถังออกซิเจนให้ปลอดภัยจะต้องเลือกถังที่ไม่ขึ้นสนิม ต้องสังเกตุเครื่องหมาย มอก. 540-2555 ที่ตัวถัง เกลียวนอกข้อต่อถังออกซิเจนต้องได้รับมาตรฐาน CGA 540 จึงถือว่าเป็นถังออกซิเจนได้มาตรฐาน ส่วน เครื่องผลิตออกซิเจน นั้นจะมีชั่วโมงการใช้งานตามมาตราฐานของตัวเครื่องที่กำหนดไว้ แล้วก็แค่หมั่นทำความสะอาดส่วนต่างๆ ของเครื่องเพียงเท่านั้นเอง

ข้อเสียของ “เครื่องผลิตออกซิเจน”

1. กรณีไฟฟ้าที่บ้านดับหรือไม่มีไฟฟ้า “เครื่องผลิตออกซิเจน” จะไม่สามารถใช้งานได้ เพราะการทำงานของเครื่องออกซิเจนนั้นจะต้องเสียบปลั๊กเผื่อใช้งาน ต่างจากการใช้งานจากถังออกซิเจนที่สามารถเปิดวาล์วต่อท่อแล้วใช้งานได้เลย ฉะนั้น หากผู้ใช้งานที่เป็นผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องการออกซิเจนอยู่ตลอดเวลา ผู้ดูแลควรมีถังออกซิเจนสำรองเตรียมไว้ในกรณีไฟฟ้าดับหรือกรณีฉุกเฉินอื่นๆ ด้วย
   
   
2. “เครื่องผลิตออกซิเจน” ที่ไม่ใช่แบบพกพาจะไม่สามารถใช้งานระหว่างการเดินทางได้ แตกต่างจากการใช้งานจากถังออกซิเจนที่สามารถใช้งานได้ตลอดเพราะไม่ต้องพพึ่งกระแสไฟฟ้า แต่ด้วยขนาดของถังที่ใหญ่มากก็อาจจะพกพาลำบากได้เช่นกัน ฉะนั้น ทางเลือกที่ดูจะประหยัดกว่าการซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพาเพิ่มเติม อาจจะเลือกถังออกซิเจนขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งในรถได้ มาติดไว้ใช้ยามที่อาจจะต้องเคลื่อนย้ายหรือพาผู้ป่วยเดินทางไปบนรถด้วยก็น่าจะตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งานอย่างแท้จริง

ถังออกซิเจน (Oxygen Tank) อย่างเราได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ความจริงแล้ว “เครื่องผลิตออกซิเจน” ก็ถูกพัฒนามาจากถังออกซิเจน เพื่อวัตถุประสงค์การใช้งานแบบเดียวกันก็คือ ช่วยเรื่องการหายใจของผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ เพียงการใช้งานถังออกซิเจนนั่นอาจจะใช้เทคโนโลยีที่มีชั้นเชิงมากกว่าและสะดวกสบายมากกว่านั่นเอง แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีข้อดีของถังออกซิเจนที่ถือเป็นข้อได้เปรียบมากกว่าเครื่องออกซิเจน ดังนี้

ข้อดีของถังออกซิเจน เมื่อเทียบกับ “เครื่องผลิตออกซิเจน”

1. ถังออกซิเจนมีค่าความบริสุทธิ์มากกว่า โดยมีค่าของออกซิเจนอยู่ที่ 99% ซึ่งเครื่องออกซิเจนทำได้เข้มข้นประมาณ 90-69%
2. ถังออกซิเจนมีหลายขนาดความจุให้เลือกใช้หลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก จนถึงขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ดังนั้นถังออกซิเจนจึงสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือใช้บนรถระหว่างเดินทาง มากกว่า เครื่องผลิตออกซิเจน ที่ไม่ใช่แบบพกพา

ข้อเสียของถังออกซิเจน เมื่อเทียบกับ “เครื่องผลิตออกซิเจน”

1. ถังออกซิเจนมีข้อกำจัดของปริมาณออกซิเจนที่อยู่ในถัง ซึ่งหากใช้หมดก็จะต้องคอยนำถังออกไปเติมออกซิเจนอยู่ตลอดเวลา โดยเครื่องที่ผลิตออกซิเจนจะมีอายุการใช้งานของตัวเครื่อง อยู่ที่ประมาณ 10,000 - 30,000 ชั่วโมง แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ และเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือนว่าตัวเครื่องทำงานครบชั่วโมงการทำงานที่แจ้งไว้แล้ว ก็แค่เปลี่ยนกระบอก Molecular Sieve ที่บรรจุสารซีโอไลท์ด้านหลังของตัวเครื่องใหม่ เท่านี้ เครื่องผลิตออกซิเจน ก็สามารถกลับมาใช้งานใหม่ได้ดังเดิม อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องความเสื่อมของถังออกซิเจน อย่างการขึ้นสนิม เป็นต้น
   
   
2. เสียค่าใช้จ่ายในระยะยาวมากกว่า หากคำนวณราคาค่าถังและค่าใช้จ่าย อย่างการเติมก๊าซแต่ละครั้ง (ซึ่งถ้ายิ่งมีความจำเป็นต้องใช้ตลอดทั้งวันก็จะยิ่งเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น) ค่าเดินทางนำถังออกไปเติมก๊าซแต่ละครั้งทั้งหมดแล้ว การใช้ถังออกซิเจนจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า เครื่องผลิตออกซิเจน ในระยะยาว

ทั้งหมดนี้คือข้อดีข้อเสียของอุปกรณ์ช่วยหายใจ สำหรับผู้ป่วยผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นต้องใช้งานอยู่ที่บ้าน ทั้งแบบถังออกซิเจนและแบบเป็นเครื่องที่ผลิจออกซิเจนได้แบบอัตโนมัติ แต่การจะเลือกซื้อ เครื่องผลิตออกซิเจน แบบใดนั้น จะต้องดูปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบด้วย ทั้ง งบประมาณของคุณเอง, ความจำเป็นในการใช้งาน, รวมถึงความเหมาะสมของปริมาณในการใช้งานสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งจะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น ว่าผู้ป่วยควรใช้ปริมาณออกซิเจนเท่าไหร่ เพราะถ้าหากมากไปหรือน้อยไปก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยได้

หากคุณกำลังมองหา เครื่องผลิตออกซิเจน คุณภาพดี ได้มาตรฐานและมีให้เลือกหลากหลายขนาด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
Customer services : 096-924-6604
Facebook : @AdlerMedicalSupply
Line@ : https://page.line.me/adlermed
Website : https://www.adlerthailand.com