shopup.com
เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร Owgels รุ่น OZ-5-01GWO
รหัส : OZ-5-01GWO
เครื่องเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน ขนาด 10 ลิตร ยี่ห้อ Owgels รุ่น OZ-5-01GWO) มีช่องจ่ายออกซิเจน 2 ช่อง (สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน) มีฟังก์ชันพ่นละอองยา ระดับเสียงการทำงานไม่เกิน 60 dB อายุการใช้งาน 10,000 ชม. ไส้กรองอากาศแบบ Hepa Filter รับประกันสินค้า 8 เดือน
จาก 42,900.00 บาท ลดทันที 17900 บาท
ราคา 25,000.00 บาท

25 กุมภาพันธ์ 2566

ผู้ชม 9807 ผู้ชม

สั่งซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน โทร.0969246604สั่งซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน Line @adlermedสั่งซื้อเครื่องผลิตออกซิเจน Inbox facebook


แผนที่ Adler Medical Supplyเลขที่ใบอนุญาตโฆษณา : ฆพ.698/2564

เครื่องผลิตออกซิเจนขนาด 10 ลิตร ยี่ห้อ Owgels รุ่น OZ-5-01GWO

คุณสมบัติทั่วไป

  1. ตัวเครื่องหุ้มภายนอกด้วยพลาสติกแข็งแรง ปลอดภัย
  2. ขนาด 39 x 35 x 72 ซม. น้ำหนัก 29.5 กิโลกรัม
  3. ขนาดรวมกล่อง 480 x 435 x 755 ซม. น้ำหนักรวมกล่อง 35 กิโลกรัม
  4. มีล้อและหูหิ้ว สะดวกในการใช้งานและเคลื่อนย้าย
  5. หน้าจอ LCD แสดงเวลาการทำงานเครื่องสะสม, เวลาที่ตั้งปิด ,โหมดการทำงาน
  6. มีไฟแสดงสถานะ 4 ตำแหน่ง (การทำงานเครื่องปกติ , แรงดันลมต่ำกว่ามาตรฐาน , ความเข้มข้นของออกซิเจน , ไฟแจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรอง)

 

คุณลักษณะทางเทคนิค

  1. สามารถปรับอัตราการไหลของออกซิเจนได้ 0-10 ลิตร/นาที และ 0.5 – 5 ลิตร /นาที (สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน )
  2. ความเข้มข้นของออกซิเจน 93% + 3%
  3. แรงดันออกของออกซิเจนสูงสุด 30-60kPa
  4. ระดับเสียงการทำงาน ≤ 60 เดซิเบลเอ
  5. ใช้ไฟกระแสสลับ 110-220V + 10%, 50-60 + 1 Hz กำลังไฟ 750 วัตต์
  6. สามารถตั้งเวลาปิดเครื่องได้ตั้งแต่ 10 นาที ถึง 300 นาทีหรือ5 ชั่วโมง โดยสามารถกดปุ่ม Timer เวลาจะเพิ่มครั้งละ 10 นาที และเมื่อกดปุ่มค้างจะทำให้เครื่องหยุดการทำงานอัตโนมัติ
  7. มีปุ่มป้องกันไฟตกหรือไฟกระชาก เพื่อป้องกันเครื่องไม่เกิดความเสียหายเมื่อไฟตก หรือไฟกระชาก โดยสามารถกดปุ่มรีเซ็ตเครื่องได้
  8. มีไส้กรองอากาศ 2 ชั้น ได้แก่
  • ไส้กรองอากาศชั้นแรก เป็นลักษณะไส้กรอกหยาบ สามารถนำไปทำความสะอาดและนำกลับมาใช้ใหม่ได้
  • ไส้กรอกภายในตัวเครื่อง เป็นลักษณะไส้กรองแบบละเอียดชนิด HEPA filter ที่จะสามารถกรองฝุ่นละอองได้เล็กที่สุด 0.3 ไมครอน และเมื่อเสื่อมสภาพแล้วต้องเปลี่ยนใหม่ ไม่สามารถทำความสะอาดหรือนำกลับมาใช้ซ้ำได้
  1. ตัวเครื่องสามารถต่อชุดพ่นละอองยาได้ (เฉพาะรุ่น) โดยให้อัตราการพ่นละอองยาไม่ต่ำกว่า 0.18 มล./นาทีที่ช่องพ่นยา ซึ่งจะแยกออกจากช่องออกซิเจน
  2. มีสัญญาณไฟแจ้งเตือน 3 สถานะ ได้แก่
  • ความผิดปกติด้านไฟฟ้าเข้าเครื่อง (Out of Power)
  • ความเข้มข้นออกซิเจนต่ำเกินมาตรฐาน (≤82%) (Low Conc .)
  • แรงดันลมผิดปกติ (Low pressure)
  • ถึงเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองหยาบ (Replace Filter)

ซึ่งถ้าหากเครื่องทำงานปกติจะมีไฟแสดงสถานะสีเขียว หรือไม่แสดงไฟแจ้งเตือน แต่ถ้าเครื่องตรวจพบปัญหาจะแสดงไฟแจ้งเตือนสีเหลือง หรือสีแดง

  1. หน้าจอแสดงผล แสดงรายละเอียด
  • โหมดการทำงาน (Flow Rate / 10 และ 5 L/min )
  • แสดงชั่วโมงการใช้งานของเครื่องสะสม (Total Time / Hr. )
  • ตั้งเวลาปิดเครื่อง (Timer / min)
  1. สัญลักษณ์แจ้งเตือนต่าง ๆ
  • ความเข้มข้นออกซิเจนต่ำเกินมาตรฐาน (≤82%) (Low Conc .)
  • แรงดันลมผิดปกติ (Low pressure)
  • ถึงเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองหยาบ (Replace Filter)
  • การปิดการแจ้งเตือน (Alarm Off)
  1. บนหน้าจอมาพร้อมปุ่มรูปแบบสัมผัส (Touch screen) ทั้งหมด 3 ปุ่ม คือ
  • Oxygen (โหมดผลิตออกซิเจน)
  • Exchange (ปุ่มเพื่อเปลี่ยนโหมดระหว่าง 10 ลิตร / นาที อย่างเดียวและใช้10 พร้อมกับ 5 ลิตร / นาที)
  • Timer (ปุ่มควบคุมการตั้งเวลาปิดเครื่อง)

 

รายการของแถมพร้อมใช้งาน

คู่มือการใช้งาน 1 ชุด
ชุดไส้กรองอากาศ HEPA 2 ชุด
กระปุกให้ความชื้น 2 ชุด
ชุดพ่นละอองยา 1 ชุด

 การรับประกันสินค้า

  • สินค้ารับประกัน 8 เดือน 
  • บริการถึงสถานที่ (Onsite Service) เฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

 

บริการพิเศษ

  • พิเศษ รองรับการชำระเงินปลายทาง โอนเงินหรือชำระบัตรเครดิตไม่ชาร์จเพิ่ม
  • พิเศษ เปลี่ยนเครื่องให้ใหม่ไม่ต้องซ่อม (ในระยะประกันเท่านั้น)

บริการจัดส่งเครื่องผลิตออกซิเจนฟรีทั่วประเทศ

 

คำแนะนำและการดูแลรักษาเครื่องออกซิเจน

1. ควรตั้งเครื่องไว้ในบริเวณที่โล่งหรือที่ให้ลมผ่านสะดวก ควรวางห่างจากกำแพง อย่างน้อย 1 ฟุต ไม่ควรวางเครื่องไว้ชิดกำแพง ห้ามวางเครื่องบนโฟม ฟูก พรม และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องในพื้นที่ที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี

2. การเปิดปิดเครื่องแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องเซ็ตอัพอย่างน้อย 5 นาที

3. ก่อนใช้ฟังก์ชั่นพ่นยาต้องปรับระดับอัตราการไหลของออกซิเจนเป็น 0 ลิตรต่อนาที ก่อนทุกครั้ง

4. เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีไฟฟ้าดับหรือไม่มีไฟฟ้า

5. เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีกระแสไฟฟ้าตกเกิน 10% จากกระแสไฟที่จ่าย

6. ในกรณีที่ไม่ใช้งานควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง

7. ในกรณีเคลื่อนย้ายเครื่องต้องวางเครื่องในแนวตั้งเท่านั้น และถอดกระป๋องนํ้าให้ความชื้น ออกจากเครื่องทุกครั้ง

8. ในกรณีเครื่องมีปัญหาขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ กรุณาติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย

9. ควรหมั่นทำความสะอาดภายนอกเครื่องโดยใช้ผ้าชุบนํ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่วและใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ เช็ดอีกครั้งอย่างสมํ่าเสมอ

10. ควรทำความสะอาดไส้กรองข้างเครื่องทุกสัปดาห์ โดยล้างนํ้าและผึ่งลมให้แห้ง

11. ควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน (ติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย)

 

 

 

วิธีการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ ซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนอย่างไร ซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นไหนดี

หลักการทำงานเครื่องผลิตออกซิเจน และวิธีการเลือกเครื่องผลิตออกซิเจน ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์และการใช้งาน

 

หลักการทำงานของเครื่องผลิตออกซิเจน

     สำหรับอากาศทั่วไปประกอบด้วยไนโตรเจน 78 เปอร์เซ็นต์ และออกซิเจน 21 เปอร์เซ็นต์ อีกเพียง 1 เปอร์เซ็นต์จะเป็นแก๊สชนิดอื่นๆ เครื่องผลิตออกซิเจน จะเปลี่ยนอากาศโดยรอบโดยอาศัยหลักการ pressure swing adsorption หรือ PSA โดยเทคนิคนี้ จะใช้สารดูดซับประเภทซีโอไลท์ (zeolite) เพื่อทำการดูดซับไนโตรเจนออกจากอากาศที่ความดันสูง โดยไนโตรเจนจะยึดติดกับผิวของสารซีโอไลท์ เนื่องจากซีโอไลท์มีพื้นผิวสัมผัสมากจึงสามารถจับกับแก๊สไนโตรเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก สารจะดูดซับก๊าซไว้ได้เป็นจำนวนมาก เมื่อความดันต่ำลงไนโตรเจนก็จะถูกปล่อยทิ้ง ส่วนออกซิเจนก็จะถูกปล่อยออกมาเพื่อใช้งานที่มีความบริสุทธิ์ประมาณ 96% เหมือนเป็นการกรองแก๊สไนโตรเจนออกจากแก๊สออกซิเจนนั่นเอง


เครื่องผลิตออกซิเจน แบ่งได้ เป็น 2 ชนิด ตามการใช้งาน

 

1.ชนิด Continuous Flow Oxygen Concentrators

จะปล่อยออกซิเจนออกมาได้ต่อเนื่อง ใช้เพื่อรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ในโรงพยาบาล และสถานพยาบาล แม้แต่ใช้พักฟื้นที่บ้าน มีขนาดสเปคตั้งแต่ 3 ลิตร ขนาด 5 ลิตร ไปจนถึงขนาด 10 ลิตร ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการนำไปใช้งาน

 

2.ชนิด Pulse Dose Portable Concentrators

เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ Pulse Dose สามารถผลิตออกซิเจนให้ได้ในระยะสั้นๆตามการหายใจเข้า ส่งผลให้ไม่มีการสูญเสียออกซิเจนให้สูญเปล่า สามารถช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจนไม่มากนัก และสำหรับต้องการออกซิเจนแบบพกพาเพื่อทำกิจกรรมนอกบ้าน เครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพา

การจับจังหวะการหายใจไม่ว่าผู้ใช้จะหายใจช้าหรือเร็วเครื่องก็สามารถจับจังหวะการหายใจและปล่อยออกซิเจนได้อย่างเหมาะสมในแต่ละบุคคล ระบบแบบ pulse dose ส่วนใหญ่สามารถปรับได้ประมาณ 1 - 5 ระดับ โดยที่ค่าความเข้มข้นของออกซิเจนจะไม่ลดลง ซึ่งจะมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 93+- 3% ในทุกระดับ

 

ทราบได้อย่างไรว่าควรเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนขนาดกี่ลิตร

แพทย์จะกำหนดให้ผู้ป่วยทราบว่าผู้ป่วยจะต้องการออกซิเจนเท่าใด (ลิตรต่อนาที) ก่อนซื้อต้องมั่นใจว่าเครื่องผลิตออกซิเจนสามารถให้ออกซิเจนในปริมาณที่เพียงพอสำหรับความต้องการของผู้ใช้งานหรือไม่

 

การให้ออกซิเจนบำบัดที่บ้าน (Oxygen Therapy)

การพิจารณาให้ออกซิเจนที่บ้านจะใช้เกณฑ์ที่แตกต่างจากกรณีที่อยู่ในโรงพยาบาล คือเป็นการให้ออกซิเจนในภาวะปกติของผู้ป่วยรายนั้นนั่น

1.กรณีที่ต้องการให้ออกซิเจนต่อเนื่อง

  • วัดความอิ่มตัวของออกซิเจนจากปลายนิ้ว (SpO2) ได้น้อยกว่า 88 %
  • วัด SpO2 ได้ 88-90% แต่มีภาวะหรือโรคที่บ่งบอกถึงภาวะขาดออกซิเจนเรื้อรังขึ้นแล้ว จากการประเมินของแพทย์

2.กรณีที่ต้องให้ออกซิเจนเฉพาะบางโอกาส

  • ให้ออกซิเจนขณะออกกำลังกาย หรือหลังออกกำลังกาย SpO2 น้อยกว่า 88%
  • ให้เฉพาะขณะนอนหลับ ถ้าขณะหลับ SpO2 ต่ำกว่า 88 %

ทั้งสองภาวะเบื้องต้นนี้สามารถประเมินโดยการตรวจจับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ซึ่งอาจจะได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ผู้ดูแลก่อนจะดีที่สุด

 

อุปกรณ์สำหรับให้ออกซิเจน

ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ต้องได้ออกซิเจนที่บ้าน มักใช้เพียงอุปกรณ์ชนิด nasal cannula หรือสายออกซิเจนแบบผ่านจมูก เพราะภาวะพร่องออกซิเจนมักจะต่ำและไม่รุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตามก็มีผู้ป่วยโรคปอด หรือโรคหัวใจบางรายที่มีภาวะขาดออกซิเจนที่รุนแรงแต่เรื้อรังมากๆ จำเป็นต้องรักษาตัวที่บ้าน จึงต้องมีการใช้อุปกรณ์สำหรับให้ออกซิเจนในรูปแบบอื่นๆ ด้วยดังนี้

 

1. nasal cannula หรือสายออกซิเจนแบบผ่านจมูก

ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 1-6 ลิตร/นาที สายเล็กๆ ที่นำออกซิเจนควรอยู่ลึกในจมูกประมาณ 1 ซม. ข้อดีคือผู้ป่วยจะรู้สึกสบายกว่าอุปกรณ์แบบอื่นและมีราคาถูก

ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับ (FiO2)

1 L/min = 24 %

2 L/min = 28 %

3 L/min = 32 %

4 L/min = 36 %

5 L/min = 40 %

6 L/min = 44 %

ข้อจำกัด

ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับแปรผันตามการหายใจ ถ้าหายใจเร็ว หอบอยู่ สัดส่วนของอากาศปกติก็จะมาก ทำให้ความเข้มข้นลดลง และถ้าเปิดออกซิเจนแรง จะทำให้ระคายเคืองเยื่อบุจมูก

 

2. Simple Oxygen Mask หรือหน้ากากออกซิเจน

ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 5-8 ลิตร/นาที การใช้ต้องครอบให้แนบสนิทกับหน้า

ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับ (FiO2)

5-8 L/min = 50-60%

ข้อจำกัด

ห้ามเปิดออกซิเจน น้อยกว่า 5 L/min เพราะจะทำให้ลมหายใจเดิมค้างในหน้ากาก ผู้ป่วยจะหายใจเอาอากาศเดิมเข้าไปใหม่ได้ บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย

 

3. High Concentration Oxygen Re breathing Mask with Bag หรือหน้ากากออกซิเจนมีถุง

ใช้สำหรับอัตราการไหลของออกซิเจน 6-10 ลิตร/นาที การใช้ต้องครอบให้แนบสนิทกับหน้า สังเกตว่าถุงมีการยุบพอง ตามจังหวะการหายใจของคนไข้

ความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผู้ป่วยได้รับ (FiO2)

6-10 L/min = 55-70 %

ข้อจำกัด

ห้ามเปิดออกซิเจน น้อยกว่า 6 L/min อื่นๆ เช่นเดียวกับ simple mask

 

ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ

ออกซิเจนในเลือดต่ำ หมายถึง แรงดันของออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ หรือวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้น้อยกว่าปกตินั่นเอง เครื่องที่ใช้ตรวจวัดสะดวกแพร่หลายจะเป็น การวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน เพราะสามารถวัดได้จากภายนอก โดยใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์  ที่ไม่ยุ่งยาก และซับซ้อน เราจะวัดโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า pulse oximeter (เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว) โดยปกติค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะอยู่ที่ 96 – 100%  ของความอิ่มตัวสูงสุด 

หากค่า 95 % หรือต่ำกว่า มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ควรปรึกษาแพทย์ **หากมีโรคประจำตัวบางกลุ่ม หรือสูบบุหรี่จัดอาจส่งผลให้ความอิ่มตัวออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติได้** ในกรณีออกซิเจนต่ำที่เป็นเรื้อรังแล้วร่างกายมีการปรับตัว มักจะไม่มีอาการของการขาดออกซิเจน จนกว่าออกซิเจนจะเริ่มต่ำกว่า 90% เมื่อออกซิเจนในเลือดต่ำ เริ่มแรกเลยร่างกายจะพยายามปรับสมดุลในตัวเอง เพื่อรักษาระดับออกซิเจนไม่ให้ตกก่อน โดยการหายใจที่เร็วขึ้น แรงขึ้น หัวใจก็พยายามสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ มากขึ้น โดยจะเต้นเร็วและแรงขึ้นด้วยเช่นกัน ความดันโลหิตก็จะสูงขึ้น

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

  • เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วใช้อย่างไร./https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2/
  • นพ.สุรพันธ์ เจริญธัญรักษ์.ใส่ O2 canula ได้ FiO2 เท่าไร ?.https://www.facebook.com/kkhsepsis
  • หลักการให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย. https://www.medi2you.com/oxygen-concentrator/

 

หมายเหตุ ติดต่อบริษัทฯผู้จัดจำหน่าย 096 924 6604

เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.30

เวลาหยุดทำการ : เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

**เครื่องผลิตออกซิเจนไม่ใช่อุปกรณ์ช่วยชีวิต กรุณาอ่านคู่มืออย่างระวัง**

**ในกรณีติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า กรุณานัดหมายในเวลาทำการ**

**การใช้เครื่องผลิตออกซิเจนควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์**

Engine by shopup.com